ค้นหา

หัวใจที่ถูกเยียวยาโดยสมบูรณ์ และการกลับมาเล่าเรื่องต่อให้จบในหนังสั้น ‘brighter days ahead’

เจนจิรา หาวิทย์
1 เม.ย.
ยาว 2 นาที

อัปเดตเมื่อ 8 เม.ย.

“ฉันจะไม่แตกสลาย ไม่สั่นไหว โชคชะตานี้ จะเขียนใหม่

หายใจเข้าให้ลึก ชีวิต ความตาย เวียนวน”

.

“Won’t break, can’t shake. This fate, rewrite.

Deep breaths, tight chest, life, death rewind.”

.

เป็นท่อนทิ้งท้ายจากเพลง ‘eternal sunshine’ ที่เมื่อตั้งใจฟังอีกครั้งก็ทำให้เสียน้ำตา Ariana Grande ศิลปินหญิงผู้มีภาพจำเป็นป็อปสตาร์เจ้าแม่เพลงเซ็กซี่ซุกซนคนนี้ ผ่านชีวิตที่หนักหนากับหัวใจของเธอมามาก แต่สุดท้ายแสงตะวันของวันพรุ่งนี้จะเฉิดฉาย และเธอจะลุกขึ้นยืนใหม่อีกครั้ง..

.

ผู้เขียนขอแสดงความยินดีกับเผ่าหางม้า Arinators ทุกคนกับการกลับมาของสิ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็นภาคต่อของอัลบั้มที่พวกเราหวังอย่างยิ่งให้ได้รางวัล Best Album จากเวทีไหนบ้าง เพราะมันเป็นผลงานที่งดงามจริงๆ กับ “eternal sunshine deluxe: brighter days ahead” การกลับมาที่แม่อาริไม่ได้เสิร์ฟแค่ bonus tracks 6 เพลง (รวมเป็น 19 แทร็ก) แต่เสิร์ฟหนังสั้นแนว Sci-fi มาให้แฟนๆ ดูกันต่อด้วยว่าหลังจากการเข้ารับบริการลบความทรงจำใน eternal sunshine ชีวิตของสาวเจ้าดำเนินไปอย่างไรต่อ ซึ่งสิ่งที่เซอร์ไพรส์มากคือกลับมาคราวนี้อาริอานาจูงมือพาผู้ชมย้อนวัยไปถึงช่วงชีวิตวัยเด็ก เพื่อบอกว่า การเติบโตและเยียวยาของเธอในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับพาร์ทความรักความสัมพันธ์เท่านั้น แต่เป็นความเข้าใจที่มีต่อการหย่าร้างของพ่อแม่ที่ฝังอยู่ในใจเธอมาตลอด

.

หนังสั้น “brighter days ahead” และชื่อ “Ariana Grande-Bureta”

.

เป็นเรื่องอบอุ่นหัวใจของตัวศิลปิน ครอบครัว และแฟนเพลงอย่างมาก เมื่อชื่อที่ปรากฏใน End Credits ภาพยนตร์ “WICKED: Part I” ของอาริอานามีการเติมนามสกุลของคุณพ่อ ‘Edward Bureta’ เข้าไป โดยศิลปินเองก็มีการทำคอนเทนต์เซอร์ไพรส์คุณยายในโรงภาพยนตร์ว่าเธอเลือกใช้ชื่อนี้ในผลงานการแสดงที่เธอมีความสุขที่สุดในชีวิต

.

ในผลงานหนังสั้นประกอบเพลงอัลบั้มภาคต่อ brighter days ahead ความสัมพันธ์ของเธอกับคุณพ่อถูกนำมาเล่าเป็นเส้นเรื่องหลัก ผ่านบทเพลงต่างๆ โดยเรื่องเปิดมาที่อาริอานาใน 80 ปีต่อมาหลังลบความจำเรื่องคนรักกลับมาใช้บริการของ Brighter Days Inc. อีกครั้ง โดยตอนนี้เธอได้กลายเป็นคุณยายผมขาวทั่วหัวไปแล้ว แต่ก็ยังแอบมีกิมมิกน่ารักๆ อย่างแผงขนตาฟูกับเล็บเจลติดมาด้วย คุณยายอาริมารับบริการลบความจำ 4 ส่วน แต่ก่อนที่จะลบเธอขอทำการเยี่ยมชมมันอีกครั้ง..

.

เริ่มที่ความทรงจำวัยเด็กในวันที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับเพลง “intro (end of the world)” กับท่อนเพลงที่เชื่อมโยงกันว่า “How can I tell if I’m in the right relationship?” ที่ในอัลบั้มก่อนอาจหมายถึงเรื่องราวของอาริเอง แต่ครั้งนี้ราวกับว่าเธอนึกย้อนมาถึงความรักของพ่อแม่ ว่าเราจะรู้ได้อย่างไรในวันที่ทุกอย่างสวยงาม ว่าเรื่องจะจบลงเช่นนั้น ไม่ต่างกับความสัมพันธ์ของเธอเมื่อเติบโตมา มากกว่าความปลดปลง คือความเข้าใจที่เราในฐานะผู้เขียนสัมผัสได้จากเรื่องราวและบทเพลงในพาร์ทนี้

.

ต่อที่ความทรงจำส่วนที่ 2 กับเพลง “eternal sunshine” และ “dandelion” เปิดมากับท่อนเพลงที่หยิบยกมาในต้นบทความ ถึงการเริ่มต้นใหม่แม้จะแตกสลายต่อด้วยแทร็กไฟลุกที่แฟนคลับต้องยืนขึ้นปรบมือว่าอาริเวอร์ชันหางม้าอายไลเนอร์คมกริบกับดนตรี Trap กลับมาแล้ว โดยภาพความทรงจำด้านหลังจะเป็นช่วงพีคทางอาชีพศิลปินของเธอตั้งแต่ยุค “Yours, Truly” มาจนถึง “Sweetener” ด้วยการตีความจากแนวเพลงและลุคของตัวละครในความทรงจำที่อาริเลือกนำเสนอ

.

ความทรงจำส่วนที่ 3 เปิดขึ้นมาในบ้านที่ผุพังกับเพลง “twilight zone” และ “supernatural” ผู้เขียนมองว่าเป็นการเชื่อมโยงกับคำว่า ‘broken home’ ที่ใช้เรียกครอบครัวที่หย่าร้างบ้านแตก เพราะตัวบ้านในฉากจะมีทั้งกรอบรูปของพ่อแม่และภาพของเธอกับตัวละครแฟนหนุ่ม (แสดงโดย Evan Peters) จากมิวสิกวิดีโอเพลง “we can’t be friends (wait for your love)” ซึ่งเนื้อหาเพลงที่ถูกนำมาใช้ประกอบเรื่องราวช่วงนี้พูดถึงการยอมรับและทำใจก้าวผ่านเหตุการณ์เลวร้าย ว่าถึงแม้เรื่องนี้จะเจ็บปวดเกินรับไหวแต่เธอก็ขอทิ้งมันไว้ตรงนี้ แล้วร่างของอาริอานาก็ถูกยานปริศนาดูดหายไปบนท้องฟ้า และนำมาสู่ความทรงจำสุดท้าย ที่มีภาพเป็นหนังขาวดำย้อนยุค ที่ผู้เขียนค่อนข้างมั่นใจว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ Poor Things (2023)

.

ความทรงจำที่ 4 กับเพลง “Hampstead” (ชื่อเมืองทางเหนือของลอนดอน สถานที่ถ่ายทำ WICKED) ในพาร์ทนี้จะเล่าเรื่องของนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่พยายามประกอบชิ้นส่วนของอาริอานาซึ่งเป็นลูกสาวของเขาขึ้นมาและใช้กระแสไฟฟ้าทำให้เธอกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ประหนึ่งว่าเขาเป็นคนที่ทำให้เธอแตกสลาย จนในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ ซึ่งในตอนจบเราจะได้เห็นคุณพ่อของอาริอานามาร่วมแสดงในฉากเล่นเปียโนคู่กับเธอด้วย และเนื้อหาของเพลงนี้เกี่ยวกับการโอบรับทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา ว่าอยากน้อยการได้รู้สึกทุกอย่างก็ยังดีเสียกว่าการไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนเป็นการขอบคุณประสบการณ์ชีวิตที่เข้ามาสอนและเติมเต็ม ทำให้เธอเป็นเธอได้อย่างงดงามในวันนี้ โดยแอบใส่ Hint จากเพลงเก่าๆ ที่แฟนคลับคิดถึงเข้าไปด้วย

.

“What's wrong with a little bit of poison? Tell me

I would rather feel everything than nothing every time

Ooh, fear me, stranger, a little bit of sugar, danger

I'd rather be seen and alive than dying by your point of view

I do, I do, I do, I do”

.

“จะเป็นไรไป ถ้าจะเติมยาพิษเข้าไปสักนิดหน่อย บอกฉันที

ฉันอยากจะรู้สึกทุกสิ่ง ดีกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย

คนแปลกหน้าที่ผ่านเข้ามา ทำให้ฉันหวาดกลัวได้เลย ถึงมันจะทั้งหวานชื่นและอันตราย

ฉันก็ขอถูกมองเห็นและมีชีวิตอยู่ ดีกว่าต้องตายไปในมุมมองของเธอ

ฉันต้องการแบบนั้นจริงๆ”