‘ซันซะรุ’ ภาพปริศนาธรรมใน White Lotus สัญญะใบ้ชะตากรรมสามพี่น้อง
- Bloomsbury Girl
- 10 เม.ย.
- ยาว 1 นาที

แฟนซีรีส์ White Lotus คนไหนดูซีซัน 3 จบแล้วชอบเส้นเรื่องบ้านรัตลิฟฟ์ที่สุดเหมือนกันบ้าง 🙋
.
นอกจากการแสดงของรุ่นพ่อแม่ที่ดีงามจนบทจะเครียดก็เครียดตาม บทจะตลกก็ตลกหน้าตายจนขำออกเสียงแล้ว บทของรุ่นลูกทั้งสามคน แซกซัน ไพเพอร์ และล็อกลัน ยังน่าจับตามองและตลกร้ายไม่แพ้กัน (ขอแอบหวีดในวงเล็บว่าชอบการตั้งชื่อลูกโดยใช้สัมผัสอักษรจัง – ซซ พพ ลล 🫶)
.
วันนี้คอลัมน์ Behind the Scenes ขอชวนชาวเพจมาเม้าเรื่องสัญญะเชิงภาพที่ไมค์ ไวต์ (Mike White) ผู้กำกับและ เบน คัตชินส์ (Ben Kutchins) ผู้กำกับภาพ หย่อนเอาไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องเพื่อใบ้ธีมและชะตากรรมของตัวละครสามพี่น้องแบบเนียนๆ
.
(⚠️ SPOILERS ALERT: บทความมีการเปิดเผยเนื้อหาในบทสรุปของซีรีส์)
.
ในตอนแรก แซกซัน (Patrick Schwarzenegger) ไพเพอร์ (Sarah Catherine Hook) และล็อกลัน (Sam Nivola) เปิดตัวด้วยฉากนั่งเรียงกัน โดยแซกซันสวมแว่นกันแดด ไพเพอร์สวมหูฟังแบบครอบ ส่วนล็อกลันก็ดื่มอะไรบางอย่างอยู่ กลายเป็นภาพสะท้อนของ ‘ซันซะรุ’ (三猿) หรือปริศนาธรรมลิงสามตัวอันโด่งดัง ซึ่งมีที่มาจากศาสนาพุทธนิกายเถียนไถ ทั้งยังถูกกล่าวถึงในคัมภีร์ขงจื๊ออีกด้วย
.
ตัวที่หนึ่งเอามือปิดตา เรียกกันว่า มิซะรุ (見猿) หมายถึง อย่าไปมองสิ่งไม่ดี
ตัวที่สองเอามือปิดหู เรียกกันว่า คิกะซะรุ (聞か猿) หมายถึง อย่าไปฟังสิ่งไม่ดี
ตัวที่สามเอามือปิดปาก เรียกกันว่า อิวะซะรุ (言わ猿) หมายถึง อย่าไปพูดถึงสิ่งไม่ดี
.
เป็นที่มาของวลี See no evil, hear no evil, speak no evil ที่ชาวตะวันตกชื่นชอบและรู้จักกันแพร่หลายในฐานะหลักธรรมจากตะวันออกนั่นเอง (จนถึงกับมีอีโมจิเป็นของตัวเอง 🙈🙉🙊) ความหมายแรกเริ่มเดิมที คือ การไม่เอาตนไปข้องเกี่ยวกับสิ่งไม่ดี แต่ภายหลังมีการตีความใหม่ในหมู่ชาวตะวันตกว่า สามารถหมายถึงการทำเป็นไม่เห็น ไม่ได้ยิน และไม่พูดถึงสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นตรงหน้า คล้ายกับสุภาษิตไทย ‘เอาหูไปนา เอาตาไปไร่’ นั่นเอง
.
ครั้งแรกที่ได้เห็นซีนนี้ คนที่คุ้นเคยกับปริศนาธรรมลิงสามตัวจึงตีความและวิเคราะห์กันไปหลากหลาย เช่น อาจมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น สามพี่น้องจึงตกที่นั่งลำบาก จำต้องทำเป็นไม่รับรู้ เป็นต้น (ซึ่งจะว่าไปก็พอมีเรื่องทำนองนั้นเกิดขึ้นอยู่บ้างนะ 👀)
.
แต่พอเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ เราก็เริ่มเห็นเค้าลางความหมายของสัญญะดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่ทั้งเรื่องของการทำเป็นไม่รับรู้เพื่อปกปิดความผิดให้ใคร (การตีความของตะวันตก) หรือเรื่องของการปฏิบัติตนให้ห่างไกลจากสิ่งชั่ว (ความหมายเดิมในตะวันออก) เสียทีเดียว แต่ ‘สิ่งชั่ว’ ที่ทั้งสามคน ไม่เห็น ไม่ได้ยิน และไม่พูดถึงในตอนต้น คือ สัจธรรม ความจริง และความเป็นไปของโลกต่างหาก
.
🙈🕶️ แซกซันสวมแว่นปิดตาตัวเองไว้ สื่อถึงตัวตนของเขาที่มองโลกอย่างตื้นเขิน เขาเป็นเพลย์บอยเนโปเบบี้บ้ายิมท่าทางขี้เท่อ มักเบะปากล้อเลียนทุกสิ่งอย่างที่ดูโรแมนติก ทั้งน้องสาวที่พูดถึงศาสนาพุทธ หรือเชลซี สาวน่ารักผู้เอาแต่พูดถึงโชคชะตาและรักแท้ที่ัตัวเองแอบปิ๊ง
.
แต่แล้วเชลซีกลับทำให้เขาเห็นและตระหนักได้ว่า สิ่งที่เขาต้องการอาจไม่ใช่สิ่งตื้นเขินที่ตนไล่ตามมาตลอดอย่างหุ่นล่ำๆ เซ็กซ์ร้อนแรง หรือความสำเร็จภายใต้เงาของพ่อ แต่เป็นรักดีๆ แบบที่เชลซีมีกับริก (Walton Goggins) ในฉากปิดตัว เราจึงได้เห็นแซกซันในเวอร์ชันที่ไม่ปิดตาตัวเองเอาไว้อีกต่อไป แต่เปิดใจรับมุมมองใหม่ๆ จากหนังสือที่เชลซีให้ไว้
.
🙉🎧 ไพเพอร์สวมหูฟังปิดหูตัวเองไว้ สื่อถึงตัวตนของเธอที่ดื้อรั้นและไม่ยอมรับฟังใคร เธอปฏิเสธตัวตนของตัวเองและพยายามสุดความสามารถที่จะไม่ทำตัวเป็นเด็กรวยสุดตื้นเขินแบบพี่ชาย เธอหันมาอุทิศตัวเองให้กับการศึกษาหลักธรรมของพุทธศาสนา ถึงขั้นโกหกครอบครัวว่ามาทำธีสิสเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่า ตนไม่ใช่แค่คุณหนูเอาแต่ใจทั่วๆ ไป ตนสามารถใช้ชีวิตเรียบง่ายและไม่ยึดติดกับฐานะร่ำรวยได้ แต่เมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างบ้านๆ จริงๆ เธอกลับรับไม่ได้ที่ห้องพักเล็กเท่ารูหนู แถมอาหารยังไม่ออร์แกนิก เมื่อเผชิญกับความจริงข้อนี้ เธอก็เริ่มยอมรับความจริงได้ว่าตัวเองเป็นใคร แล้วเลิกพยายามสวมบทเป็นสาวติดดินธรรมะธัมโม
.
แฟชั่นชุดขาวเรียบง่ายในตอนแรก จึงแปรเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดในตอนจบ เธอเงยหน้ารับแดดอุ่นๆ และไม่มีหูฟังครอบหูแล้ว ซึ่งน่าจะเสื่อว่าเธอเริ่มหันมาเพลิดเพลินกับตัวตนจริงๆ และพริวิเลจในชีวิตที่ตนเองมีตามที่แม่แนะนำ (แต่ก็น่าคิดอยู่เหมือนกันว่าเมื่อความจริงเปิดเผย เธอจะรับได้ไหมที่พ่อล้มละลายจนเธอไม่อาจใช้ชีวิตคุณหนูได้แล้ว)
.
🙊🥤 ล็อกลันยกเครื่องดื่มขึ้นมาจ่อปิดปากตัวเองไว้ สื่อถึงนิสัยชอบหลีกเลี่ยง ไม่ยอมพูดความจริงและความรู้สึกของตัวเองเพื่อพะเน้าพะนอคนอื่น ตั้งแต่ต้นจนใกล้จบเรื่อง เขาแทบจะไม่ตัดสินใจทำอะไรเองเลย เพียงไหลตามพี่ๆ พ่อแม่ และคนอื่นๆ ไปเรื่อยจนถูกมองว่าเหลาะแหละ ขนาดจะมีอะไรกับสาวยังมัวสนใจแต่พี่ชายจนเผลอทำในสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศกลายๆ
.
Turning point สำคัญของล็อกลันที่เปลี่ยนเขาไปตลอดกาล คือ ฉากที่เขาเกือบจะตายเพราะดื่มซากอารยธรรมของเมล็ดจากผลของต้นตีนเป็ดน้ำ หรือ “ต้นสั่งลา” ที่เหลืออยู่ในเครื่องปั่นเข้าไป (แล้วทำไมแกไม่ล้างเครื่องปั่นก่อนใช้เนี่ย 😭) ในวินาทีตื่นจากความตายที่มาเยือนเพียงชั่วครู่ เขาพูดกับพ่อว่า “ผมได้เห็นพระเจ้า”
.
เมื่อได้รู้แล้วว่าชีวิตมนุษย์สั้นแค่ไหน จากวันนั้นเป็นต้นไป ล็อกลันคงใช้ชีวิตโดยหลีกเลี่ยงความจริงน้อยลง แสดงความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น ในฉากปิดตัวจึงไม่มีอะไรปิดปากเขาอีกต่อไป แต่ที่น่าสงสัยคือแว่นตาดำที่เคยปิดตาของแซกซันเอาไว้ดันเปลี่ยนมาปิดตาล็อกลันแทน 😮
.
แล้วชาวเพจล่ะ คิดว่าความหมายของแว่นตาที่เปลี่ยนคนใส่ในตอนสุดท้ายหมายความว่ายังไง?
.
.
เรื่อง: Bloomsbury Girl
.
#TheShowhopper #BehindTheScenes #HBOmax #WhiteLotus #Saxon #Piper #Lochlan #Ratliff #ไวท์โลตัส #ซีรีส์
Comments